สวัสดีครับผมหมอโฮป นายแพทย์อธิคม ถนัดพจนามาตย์ ศัลยแพทย์ตกแต่ง กับแชนแนล Dr.hope plastic surgery ช่องที่ตั้งใจจะเผยแพร่ความรู้และความจริงในเรื่อง ศัลยกรรมตกแต่ง ครับ
ถึงแม้ว่าการใช้ซิลิโคนในการเสริมจมูกจะเป็นที่นิยมกันมาก แต่ก็มีปัญหาอยู่อย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นบ่อยนั่นก็คือซิลิโคนมักทำให้ปลายจมูกบาง ทำให้มีการคิดวิธีการต่าง ๆ ในการลดปัญหานี้ลง วิธีการที่นิยมทำกันมากคือการเอาเนื้อเยื่อมาเย็บติดกับปลายซิลิโคน โดยเนื้อเยื่อที่นำมาใช้กันบ่อย ๆ ก็จะมีอยู่ 3 อย่าง คือ กระดูกอ่อนใบหู เนื้อก้นกบ และเนื้อเยื่อเทียม ในบทความนี้ผมจะไม่พูดถึงเรื่องที่ว่าใช้อะไรดีกว่ากันนะครับ ในปัจจุบันผมมีความเห็นว่าไม่ว่าจะใช้อะไรก็ไม่ดีทั้งหมด และผมไม่เสริมจมูกด้วยวิธีเหล่านี้ ก็คือการใช้ซิลิโคนที่ยาวตั้งแต่โคนถึงปลายจมูกและเอาเนื้อเยื่อมาเย็บติดกับปลายซิลิโคนหรือที่ชอบเรียกกันว่า”รองปลาย”ครับ สิ่งที่ผมจะพูดถึงในคลิปนี้จะเป็นเรื่องของเนื้อเยื่อเทียมเท่านั้นนะครับ เนื่องจากมีคนไข้หลายคนถามผมว่าถ้าเคยเสริมจมูกด้วยซิลิโคนแล้วใช้เนื้อเยื่อเทียมรองปลาย ถ้าจะแก้หรือมีปัญหาทำให้ต้องถอดซิลิโคนออก จะต้องถอดเนื้อเยื่อเทียมออกด้วยหรือไม่ ถ้าไม่ถอดจะมีปัญหาหรือเป็นอันตรายในอนาคตไหม
คำตอบของปัญหานี้ขึ้นกับความเข้าใจใน 2 เรื่อง นั่นก็คือ เนื้อเยื่อเทียม และ การปลูกถ่ายเนื้อเยื่อหรือทางการแพทย์เรียกว่า graft ครับ
เรื่องแรกเนื้อเยื่อเทียม เนื้อเยื่อเทียมคืออะไร ถ้าได้ฟังคำว่าเนื้อเยื่อเทียมคิดว่ามันมาจากไหนกันครับ เป็นของเทียมที่สังเคราะห์หรือสร้างขึ้นหรือเปล่า ไม่ใช่ครับ เนื้อเยื่อเทียมที่เรียก ๆ กันไม่ใช่สิ่งที่ถูกสร้างหรือสังเคราะห์ขึ้น แต่เป็นเนื้อเยื่อที่ได้มาจากสิ่งมีชีวิตครับ ชื่อเรียกจริง ๆ ของเนื้อเยื่อเทียมคือ acellular dermal matrix
หรือชื่อย่อว่า ADM , A คือ Acellular, D คือ Dermal, M คือ Matrix มาดูความหมายทีละคำนะครับ Acellular คือ ไม่มีเซลล์, Dermal คือ หนังแท้,ส่วน Matrix อาจจะแปลเป็นไทยยากหน่อย เอาง่าย ๆ ก็คือมันเป็นโครงร่างของเนื้อเยื่อ ดังนั้น ADM Acellular Dermal Matrix หรือเนื้อเยื่อเทียมที่เรียกกัน คือ หนังแท้ของใครซักคนหนึ่งที่ผ่านกระบวนการเอาเซลล์ภายในออกเหลือไว้แต่โครงร่างครับ ซึ่งการเอาเซลล์ออกก็เพื่อทำให้เราสามารถเอาเนื้อเยื่อนี้ซึ่งมาจากคนหนึ่งไปใสในร่างกายของอีกคนหนึ่งได้โดยไม่เกิดการปฏิเสธของร่างกายผู้รับครับ ตอนนี้คงทราบกันแล้วนะครับว่าเนื้อเยื่อเทียมคืออะไร ซึ่งผมคิดว่ามันไม่ควรถูกเรียกว่าเนื้อเยื่อเทียมด้วยซ้ำเพราะมันเป็นการบิดเบือนความหมาย ควรจะเรียกว่าเนื้อเยื้อบริจาคหรือหนังแท้บริจาค มากกว่าครับ
เรื่องที่สองคือการปลูกถ่ายเนื้อเยื่อหรือ graft การปลูกถ่ายเนื้อเยื่อก็คือเราเนื้อเยื่อจากตำแหน่งหนึ่งไปไว้อีกตำแหน่งหนึ่ง จากนั้นตำแหน่งที่เอาเนื้อเยื่อไปวางไว้ก็จะมีการสร้างหลอดเลือดเข้าไปให้เนื้อเยื่อนั้น ทำให้เนื้อเยื่อนั้นสามารถมีชีวิตอยู่ได้และมันก็จะรวมเป็นเนื้อเยื่อเดียวกันกับตำแหน่งที่มันถูกเอาไปวางอยู่ การปลูกถ่ายเนื้อเยื่อมีหลายแบบ คือ Autograft, Allograft และ Xenograft
ขอเล่าเป็นความรู้สั้น ๆ ละกันนะครับ
การเอาเนื้อเยื่อเทียมหรือหนังแท้บริจาคมารองปลายซิลิโคนเป็นการปลูกถ่ายเนื้อเยื่อวิธีหนึ่งแต่แทนที่จะเอาหนังแท้บริจาคนี้ไปเย็บติดกับเนื้อที่ปลายจมูก จะใช้วิธีการเย็บกับปลายซิลิโคนแทน แล้วพอใส่ซิลิโคนเข้าไปในจมูก หนังแท้บริจาคนี้ก็จะถูกดันในแนบติดกับเนื้อปลายจมูก เนื้อปลายจมูกก็จะมีการสร้างหลอดเลือดมาเลี้ยงหนังแท้บริจาคชิ้นนั้นและจะกลายเป็นเนื้อเดียวกันกับเนื้อปลายจมูกครับ
เมื่อเราเข้าใจแล้วว่าสิ่งที่ชอบเรียกกันว่าเนื้อเยื่อเทียมมันคืออะไร และเข้าใจแล้วว่าการเอาเนื้อเยื่อเทียมใส่เข้าไปในจมูกเป็นการปลูกถ่ายเนื้อเยื่ออย่างหนึ่ง ซึ่งมันจะรวมกลายเป็นเนื้อเดียวกันกับเนื้อปลายจมูก นั่นก็แปลว่าเวลาที่เราถอดซิลิโคนออกเนื้อเยื่อเทียมจะไม่ออกมาด้วย และเนื้อเยื่อเทียมกับเนื้อปลายจมูกจะรวมเป็นเนื้อเดียวกันไม่สามารถแยกได้ การที่มันอยู่ในจมูกไม่ได้เป็นอันตรายหรือสร้างปัญหาอะไร การถอดซิลิโคนโดยที่ไม่มีเนื้อเยื่อเทียมออกมาด้วยไม่ได้แปลว่าตอนแรกไม่ได้ใส่เนื้อเยื่อเทียมครับ คงจะได้คำตอบกันแล้วนะครับ
ถ้าอยากให้ผมทำคลิปอะไรแนะนำกันมาได้นะครับ ถ้าต้องการให้ผมประเมินแนวทางการทำศัลยกรรม มีปัญหาเรื่องของการทำศัลยกรรมทุก ๆ เรื่อง สนใจอยากทำศัลยกรรม อยากได้คำปรึกษา ส่งรูปมาให้ผมช่วยประเมินใน line official ที่ @dr.hope ได้นะครับ