เพราะการเสริมจมูกไม่ใช่แค่การใช้ซิลิโคน หรือเอาอะไรมารองปลายซิลิโคน สิ่งที่คุณจะเข้าใจเมื่ออ่านบทความนี้จบคือ ทำไมซิลิโคนถึงสร้างปัญหา ทำไมควรเสริมจมูกแบบโอเพ่น และทำไมควรเสริมจมูกแบบโอเพ่นโดยใช้กระดูกอ่อนซี่โครง และคำตอบ
สวัสดีครับ หมอโฮป นพ.อธิคม ถนัดพจนามาตย์ ศัลยแพทย์ตกแต่ง กับ Channel Doctor Hope Plastic Surgery กับความรู้และความจริงในเรื่องศัลยกรรมตกแต่งครับ และคลิปนี้มาทำความเข้าใจเรื่องการเสริมจมูกกันครับ
การจะเลือกวิธีที่ดีที่สุดในการเสริมจมูกได้นั้น สิ่งที่ต้องรู้และเข้าใจก็คือ กายวิภาคของจมูกหรือโครงสร้างของจมูกครับ รูปด้านล่างนี้ เป็นรูปจมูกในมุมต่างๆ ทั้งด้านหน้า ด้านข้างและมุมเงยที่เห็นรูจมูกครับ ผมจะวาดเส้นตามรูปร่างของจมูกนะครับ ภายในจมูกจะประกอบด้วยโครงสร้างที่เป็นกระดูกและกระดูกอ่อน
จากรูป
ผมจะเอารูปจมูกจริงออกนะครับจะได้เห็นส่วนที่เป็นโครงสร้างครับ กระดูกอ่อนโครงสร้างจะเป็นตัวกำหนดรูปร่างของจมูกครับ
คนที่จมูกสั้นเชิดกระดูกอ่อนส่วนล่างจะอยู่ในตำแหน่งที่สูง หรือโดนดึงขึ้นไปด้านบน
คนที่กระดูกอ่อนส่วนล่างอยู่ในตำแหน่งที่ยื่นลงมาด้านล่าง ปลายจมูกก็จะยาวครับ
มาดูกันว่าถ้าเสริมจมูกด้วยซิลิโคนยาวมาถึงปลายจมูกจะเกิดอะไรขึ้น
อย่างแรกปลายจมูกจะโด่งขึ้นแต่รูจมูกจะยังเหมือนเดิมไม่ได้ยืดตามปลายขึ้นไป ทำให้สัดส่วนไม่สมดุล
อย่างที่สองปลายจมูกซึ่งเป็นบริเวณที่ขยับอยู่ตลอดจากการพูด เคี้ยว ยิ้ม จะเกิดการเสียดสีกับซิลิโคน ทำให้เนื้อบางลงและอาจจะทะลุตามมา
แม้ว่าจะนำกระดูกอ่อนจากใบหูหรือเนื้อเยื่อต่าง ๆ ทั้งแท้และเทียมมารองที่ปลายซิลิโคนก็ไม่สามารถแก้ปัญหาดังกล่าวได้
อย่างที่สามกระดูกอ่อนของคนเอเชียไม่แข็งแรงโดยเฉพาะบริเวณที่ลูกศรชี้ ตามรูปด้านล่าง
เมื่อมีแรงกดจากซิลิโคนก็จะทำให้ปลายจมูกงุ้มลง ถึงแม้ว่าจะใช้ซิลิโคนที่มีขาก็ตาม ก็ยังงุ้มลงได้และมักสร้างปัญหาขาซิลิโคนทะลุเข้าในรูจมูกเพิ่มขึ้นอีก
จากปัญหาของซิลิโคนที่ว่ามาเป็น ที่มาของการเสริมจมูกโดยไม่มีซิลิโคนที่ปลายจมูก
โดยหลักการคือ การปรับตำแหน่งของกระดูกอ่อนส่วนล่างคือส่วน C ในรูปให้โด่งขึ้นหรือยาวขึ้นตามความต้องการ แต่กระดูกอ่อนที่ปรับตำแหน่งไปไม่สามารถอยู่ลอยๆได้ ต้องมีการนำกระดูกอ่อนจากส่วนอื่นมาค้ำยันไว้
ซึ่งวิธีการค้ำยันแบ่งออกได้เป็น 2 แนวทางหลัก ๆ
วิธีแรกคือการค้ำโดยไม่อาศัยผนังกั้นจมูกเป็นตัวรับแรง อาจจะค้ำ 1 จุด
หรือค้ำ 2 จุด
ขึ้นอยู่กับลักษณะจมูกที่ต้องการให้เป็น วิธีนี้เหมาะกับคนที่เนื้อปลายจมูกบาง ไม่ตึง และต้องการเพิ่มความสูงปลายจมูกไม่มากครับ
วิธีที่สองคือการค้ำโดยอาศัยผนังกั้นจมูกเป็นตัวรับแรงคือ septal extension graft หรือที่ชอบเรียกกันว่า ยืดผนังกั้นจมูก
โดยตัดเอาผนังกั้นจมูกส่วนหลังมาเย็บต่อกับผนังกั้นจมูกส่วนหน้าเพื่อเป็นตัวรับน้ำหนัก ในรูปนี้อาจจะเห็นไม่ชัด
ผมจะเอารูปกระดูกอ่อนส่วนบนและส่วนล่างออกไปก่อนนะครับจะได้เห็นผนังกั้นจมูกชัดๆ
โดยแยกกระดูกอ่อนส่วนบนและส่วนล่างออกก่อน จากนั้นตัดผนังกั้นจมูกส่วนหลังออกมาเย็บต่อผนังกั้นจมูกส่วนหน้า วิธีนี้เหมาะกับคนที่เนื้อจมูกหนา ตึง หรือต้องการปลายจมูกโด่งมากๆ แต่ข้อเสียคือปลายจมูกจะขยับหรือโยกได้น้อยกว่าวิธีแรก
แต่วิธีการนี้ยังมีปัญหาสำคัญอีกอย่างหนึ่งคือผนังกั้นจมูกในคนเอเชียมักจะเล็ก บางและอ่อนแอ เมื่อตัดผนังกั้นจมูกส่วนหลังมาใช้ทำให้ผนังกั้นจมูกส่วนหน้ารับแรงไม่ไหวเกิดการทรุดตัวลงได้
ซึ่งถ้าอ่อนแอในแนวที่ลูกศรชี้ปลายจมูกหรือสันจมูกก็จะทรุดตัวลง
หรือถ้าอ่อนแอในจุดนี้ปลายจมูกก็จะเอียง
การหลีกเลี่ยงปัญหาดังกล่าวจึงจำเป็นต้องเสริมความแข็งแรงของผนังกั้นจมูกก่อน โดยการนำกระดูกอ่อนจากส่วนอื่นมาเย็บประกบเพื่อเพิ่มความแข็งแรงก่อนที่จะทำการยืดผนังกั้นจมูกต่อไป ซึ่งกระดูกอ่อนที่เอามาเย็บประกบจะต้องมีปริมาณที่มากและต้องแข็งแรง จึงจำเป็นต้องเอากระดูกอ่อนจากซี่โครงมาใช้ครับ
ในบางคนอาจจะต้องมีการตกแต่งรูปร่างบางส่วนเล็กๆน้อยๆ ซึ่งมักต้องการกระดูกอ่อนที่ไม่แข็งมากนัก บริเวณที่มักจะนำมาใช้ก็จะเป็นใบหูครับ
ถึงตรงนี้ก็จบเรื่องของการเสริมปลายจมูกโดยไม่ใช้ซิลิโคน โดยใช้ทั้งกระดูกอ่อนจากผนั้งกั้นจมูก ซี่โครงและใบหูครับ
ส่วนสุดท้ายก็คือการเสริมสันจมูก ก็แบ่งเป็น 2 วิธี คือการใช้วัสดุสังเคราะห์และเนื้อเยื่อตัวเอง
วัสดุสังเคราะห์ก็มีทั้งซิลิโคนและกอร์เท็กซ์ผมเคยทำบทความ เสริมจมูกด้วยกอร์เท็กซ์ ดีหรือไม่? ลองย้อนไปอ่านได้ครับ
ส่วนเนื้อเยื่อตัวเองผมจะใช้จาก 2 ส่วน คือ ชั้นหนังแท้ติดไขมันจากบริเวณก้นกบ เหมาะกับคนที่ต้องการเสริมสันจมูกปริมาณไม่มาก ส่วนคนที่ต้องการเสริมค่อนข้างมากจะใช้กระดูกอ่อนซี่โครงร่วมกับ temporal fascia หรือเนื้อเยื่อเหนือขมับครับ แต่ในคนที่ต้องใช้ซี่โครงอยู่แล้วผมมักจะใช้ซี่โครงเสริมสันจมูกไปเลยเพราะต้องตัดซี่โครงออกมาใช้อยู่แล้วและการเอามาเสริมสันจมูกเพิ่มไม่ได้ทำให้แผลผ่าตัดใหญ่เพิ่มมากขึ้นเลยครับ
จากคำถามที่มีผู้ถามมาในเพจครับ ใช้ซี่โครงแล้วทำไมยังต้องใช้กระดูกหลังหูด้วย ?
ผมขอเรียกว่ากระดูกอ่อนใบหูละกันนะครับเพราะเอามาจากใบหู ไม่ได้เอามาจากหลังใบหู
กระดูกอ่อนซี่โครงจะแข็งครับเหมาะกับการเอามาเสริมโครงสร้าง ถ้าเอามาตกแต่งรูปร่างบางส่วนการใช้กระดูกอ่อนที่นิ่ม เช่น จากใบหูจะเหมาะสมและสวยกว่าครับ
ซี่โครงมีโอกาสยุบตัวไหม ซี่โครงตัวเองกับซี่โครงบริจาคยุบตัวต่างกันหรือไม่ มีครับ
โดยส่วนใหญ่จะพบการยุบตัวถ้ามีการอักเสบติดเชื้อครับ ซี่โครงบริจาคจะมีการยุบตัวที่มากกว่าครับ
ส่วนรูปร่างจมูกจะมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ขึ้นกับเทคนิคว่าเอาซี่โครงบริจาคไปใช้ตรงส่วนไหน เช่น ยืดผนั้งกั้นจมูกโดยข้างหนึ่งเป็นกระดูกอ่อนตัวเองอีกข้างหนึ่งเป็นซี่โครงบริจาคมาประกบกันรูปร่างจมูกก็ไม่เปลี่ยนแปลงมากครับ แต่ส่วนตัวผมไม่ได้ใช้ซี่โครงบริจาคครับ
จมูกที่เสริมด้วยกระดูกซี่โครงเวลาแก้จะเลาะยากจริงไหม จากที่เคยแก้มาผมว่าไม่ยากครับ
เรื่องการเสริมจมูกเป็นเรื่องที่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยเข้าใจครับ ไม่เข้าใจหลักการที่แท้จริงของการเสริมจมูกแบบปรับโครงสร้างหรือแบบโอเพ่น ไม่เข้าใจว่าแตกต่างจากการใช้ซิลิโคนอย่างไร และไม่เข้าใจว่าทำไมต้องใช้กระดูกอ่อนซี่โครง ผมหวังว่าบทความนี้จะช่วยให้มีความเข้าใจในเรื่องของการเสริมจมูกมากขึ้นครับ