การอักเสบติดเชื้อเป็นหนึ่งในปัญหาที่หลายๆคน กลัวว่าจะเกิดขึ้นกับตัวเองหลังการทำศัลยกรรม สาเหตุคืออะไร แล้วจะหลีกเลี่ยงได้อย่างไร ในบทความนี้มีคำตอบครับ
สวัสดีครับ หมอโฮป นพ.อธิคม ถนัดพจนามาตย์ ศัลยแพทย์ตกแต่ง กับ Channel Doctor Hope Plastic Surgery กับความรู้และความจริงในเรื่องศัลยกรรมตกแต่งครับ และบทความนี้ผมมีคำตอบว่าทำไมบางคนทำศัลยกรรมแล้วอักเสบติดเชื้อครับ
ปัญหาเรื่องการอักเสบติดเชื้อหลังการทำศัลยกรรมเป็นเรื่องที่ค่อนข้างน่ากลัว และเมื่อเกิดแล้วสร้างความเสียหายให้กับอวัยวะค่อนข้างมากซึ่งทำให้การแก้ไขก็ยากตามไปด้วยครับ
ในการทำศัลยกรรมใดๆก็ตาม จะมีบาดแผลซึ่งเป็นช่องทางติดต่อระหว่างภายในและภายนอกร่างกาย ทำให้เชื้อโรคสามารถเข้าสู่ร่างกายได้
อาการของการอักเสบติดเชื้อที่เกิดข้นหลังการทำศัลยกรรม จะมีอาการปวด บวม แดงบริเวณที่ทำผ่าตัด อาจจะมีไข้ มีหนองคั่งอยู่ภายในหรือไหลออกมาจากบาดแผล
ดังนั้นในทุกขั้นตอนของการทำศัลยกรรมการป้องกันการติดเชื้อจึงเป็นสิ่งสำคัญมากๆครับ และเมื่อเกิดการติดเชื้อควรได้รับการรักษาที่เหมาะสมเพื่อลดการเกิดแผลเป็นและพังผืด ไม่เช่นนั้นจะทำให้อวัยวะบริเวณนั้นเกิดการผิดรูปซึ่งยากต่อการแก้ไขครับ
และนี่คือ 5 สาเหตุของการอักเสบติดเชื้อหลังการทำศัลยกรรมครับ
เรื่องนี้หมายถึงเครื่องมือ วัสดุที่ใช้ไม่สะอาดเพียงพอ และห้องผ่าตัดไม่ได้มาตรฐานครับ
พูดถึงเรื่องเครื่องมือและวัสดุหลายๆ คนอาจจะเข้าใจว่าหมายถึงการฆ่าเชื้อเครื่องมือหรือวัสดุเพียงอย่างเดียว ซึ่งยังไม่ครอบคลุมทั้งหมดครับ เทคนิคและวิธีการจับถือเครื่องมือ การส่งต่อเครื่องมือจากพยาบาลผู้ช่วยให้แพทย์ก็มีความสำคัญครับ ถ้าทำผิดวิธีก็ทำให้มีการปนเปื้อนได้ครับ
ส่วนเรื่องของห้องผ่าตัด ถ้าไม่ได้มาตรฐานก็เป็นแหล่งเก็บเชื้อโรคดีๆ นั่นเองครับ ถ้าใครเคยเข้าห้องผ่าตัดที่ได้มาตรฐานจะรู้ครับว่าข้างในนั้นหนาวมาก ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะว่าอุณหภูมิที่ต่ำเชื้อโรคจะเจริญเติบโตได้ไม่ดีครับ ห้องผ่าตัดที่มีมาตรฐานจะต้องมีระบบการฟอกอากาศ การควบคุมความชื้น การปรับความดันภายในเพื่อไม่ให้อากาศภายนอกไหลเข้าไปได้ ต้องมีการเช็ดถูเตียงผ่าตัด พื้น ทุกครั้งที่ผ่าตัดเสร็จ อันนี้เป็นแค่การยกตัวอย่างเพียงบางส่วนเท่านั้นครับ และอีกเรื่องที่สำคัญคือการแต่งกายในขณะทำผ่าตัด มีการใส่ถุงมือฆ่าเชื้อร่วมกับเสื้อกาวน์ฆ่าเชื้อหรือเปล่าหรือใส่แค่ถุงมือฆ่าเชื้อเท่านั้น
มีการวางแผนการผ่าตัดไม่ดีพอ ขาดประสบการณ์ ทำให้ผ่าตัดแล้วมีการบาดเจ็บต่อเนื้อเยื่อมาก มีการเสียเลือดมาก และใช้ระยะเวลาในการผ่าตัดนานเกินไปครับ อยากให้เข้าใจนะครับว่าระยะเวลาการผ่าตัดไม่ได้เป็นตัวบอกถึงผลลัพธ์ที่ดีเสมอไปครับ ผ่าตัดนานอาจจะไม่ได้เพราะปราณีต แต่อาจจะเพราะทำไม่คล่องก็ได้ครับ
เช่น ชอบถูบริเวณจมูก ซึ่งจะทำให้มีการอักเสบมากขึ้นและติดเชื้อตามมาครับ
ภูมิคุ้มกันต่ำทำให้การทำงานของกระบวนการกำจัดเชื้อโรคนั้นไม่ดี สภาวะที่ภูมิคุ้มกันต่ำนี้อาจเกิดจากโรคประจำตัวบางอย่าง ยาบางอย่าง แอลกอฮอล์ บุหรี่ รวมถึงการพักผ่อนไม่เพียงพอครับ
จะมีผลให้การทำศัลยกรรมครั้งถัดไปทำได้ยากขึ้น และเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้เพิ่มขึ้นครับ
ถ้ามีการอักเสบติดเชื้อเกิดขึ้นการรักษาขึ้นกับความรุนแรงของการติดเชื้อ ถ้าเป็นน้อยๆ มักจะเริ่มต้นด้วยการให้ยาปฏิชีวนะก่อน แต่ถ้าอาการไม่ดี ไม่ตอบสนองต่อยาถ้ามีสิ่งแปลกปลอมเช่น ซิลิโคนก็ควรถอดออกก่อน
เพราะซิลิโคนเป็นสิ่งแปลกปลอมในร่างกาย การถอดออกจะช่วยให้การรักษาทำได้ดีขึ้น
ในรายที่ใช้เนื่อเยื่อของตัวเองในการทำศัลยกรรม เช่น เสริมจมูกด้วยกระดูกอ่อนใบหูหรือซี่โครง การอักเสบติดเชื้อจะพบได้น้อยกว่าและถ้าเกิดการติดเชื้อขึ้น การให้ยาฆ่าเชื้อมักจะเพียงพอครับ
เมื่อได้รับการรักษาการอักเสบติดเชื้อแล้ว ในกรณีที่มีการถอดซิลิโคนออก และต้องการกลับมาทำใหม่ แพทย์จะรอให้การหายของบาดแผลดีขึ้นเป็นเวลาอย่างน้อย 6 เดือน จึงจะพิจารณากลับมาทำใหม่ครับ
คงทราบกันดีว่าการอักเสบติดเชื้อส่งผลให้เกิดปัญหาและผลแทรกซ้อนหลายประการ หากพบว่ามีการอักเสบติดเชื้อหลังการทำศัลยกรรม นอกจากจะรับการรักษาที่เหมาะสมจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญแล้ว ผู้ป่วยยังต้องดูแลรักษาตนเอง ให้มีสุขภาพแข็งแรง รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ การพักผ่อนให้เพียงพอ มาตรวจตามแพทย์นัดอย่างครบถ้วน เพราะการรักษาได้ทันท่วงที จะลดปัญหาการผิดรูปของอวัยวะนั้น ๆได้ และทำการแก้ไขได้ง่ายมากขึ้นครับ