รอยย่นระหว่างคิ้ว มีวิธีแก้อย่างไรได้บ้าง บทความนี้มีคำตอบครับ
สวัสดีครับ หมอโฮป นพ.อธิคม ถนัดพจนามาตย์ ศัลยแพทย์ตกแต่ง กับ Channel Doctor Hope Plastic Surgery กับความรู้และความจริงในเรื่องศัลยกรรมตกแต่งครับ และในบทความนี้คุณจะรู้วิธีแก้รอยย่นระหว่างคิ้วครับ
รอยย่นระหว่างคิ้วเป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้ใบหน้าดูมีอายุครับ นอกจากดูมีอายุแล้วยังทำให้ดูหน้าดุ ดูเคร่งเครียดและไม่สดใสครับ
สาเหตุของริ้วรอยต่าง ๆ บนใบหน้านอกจากจะเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพผิวหนังแล้ว อีกสิ่งหนึ่งก็คือการทำงานของกล้ามเนื้อบนใบหน้าครับ กล้ามเนื้อบนใบหน้าหรือ muscle of facial expression จะควบคุมการขยับส่วนต่างๆบนใบหน้าเพื่อทำให้เราสามารถสื่อสารอารมณ์ ความรู้สึกออกมาได้ แต่การขยับมากๆและนานๆเข้า ก็สร้างปัญหาริ้วรอยตามมาได้
รอยย่นระหว่างคิ้วเกิดจากการทำงานของกล้ามเนื้อที่อยู่ระหว่างคิ้ว แนวของรอยย่นจะเป็นแนวตั้ง รอยย่นนี้เรียกว่า Glabella frown lines
การแก้รอยย่นแบ่งเป็น 2 แนวทาง โดยจะทำอย่างเดียวหรือควบคู่กันก็ได้
แนวทางแรกคือการหยุดการทำงานของกล้ามเนื้อ การหยุดการทำงานของกล้ามเนื้อก็มี 2 วิธี คือ แบบชั่วคราวและแบบถาวรครับ
แบบชั่วคราวเป็นวิธีที่หลายๆคนคุ้นเคยกันดีก็คือ การฉีด botulinum toxin
โดยจะไปหยุดการทำงานของสารสื่อประสาทบริเวณรอยต่อของเส้นประสาทกับกล้ามเนื้อ ข้อดีของวิธีนี้ก็คือทำได้ง่าย ค่าใช้จ่ายไม่สูง แต่ก็มีข้อเสียคือผลลัพธ์ไม่ถาวรพอหมดฤทธิ์ก็ต้องมาฉีดใหม่ และสิ่งที่ต้องระวังคือถ้าฉีดไม่ดีอาจทำให้มีอาการหนังตาตกได้ครับ
ส่วนแบบถาวรก็คือการผ่าตัด ตัดกล้ามเนื้อให้ขาดออกจากกันครับ ซึ่งการผ่าตัดสามารถทำได้ 2 วิธีครับคือ
ผ่านทางแผลตรงแนวชั้นตา กับผ่านทางแผลยกคิ้ว สามารถทำได้ทั้งการส่องกล้องยกคิ้วหรือเปิดแผลยาวที่หนังศีรษะ หน้าผากหรือแนวไรผมครับ
ข้อดีของการผ่าตัดคือได้ผลลัพธ์ที่ถาวรไม่ต้องคอยมาฉีดเป็นระยะ แต่ก็มีข้อเสียคือการผ่าตัดจะมีความยุ่งยากกว่าและค่าใช้จ่ายสูงกว่าการฉีด botulinum toxin ครับ
แล้วควรเลือกแบบไหนดี สำหรับผมมีแนวทางในการแนะนำอย่างนี้ครับ ถ้าไม่จำเป็นต้องมีการแก้ไขอะไรอย่างอื่นนอกเหนือจากรอยย่นระหว่างคิ้วผมแนะนำให้ฉีด botulinum toxin ครับ เพราะทำได้ง่ายกว่าครับ
แต่ถ้าจะต้องมีการแก้ไขอย่างอื่นด้วย เช่น จะทำตาสองชั้น แก้หนังตาหย่อน แก้หนังตาตก ตัดไขมันที่เปลือกตาบน ซึ่งจะต้องมีการเปิดแผลที่เปลือกตาบนอยู่แล้วทำให้สามารถตัดกล้ามเนื้อผ่านทางแผลเดียวกันได้เลย แบบนี้ทำผ่าตัดไปเลยก็ดีกว่าครับ เพราะไม่ได้บวมช้ำเพิ่มมากขึ้นไปเท่าไร
อีกกรณีคือ ในคนที่จะต้องผ่าตัดยกคิ้วทั้งการส่องกล้องหรือเปิดแผลยาวที่หนังศีรษะ หน้าผากหรือแนวไรผม ผมจะทำการผ่าตัดกล้ามเนื้อไปด้วยเลย เพราะเป็นขั้นตอนหนึ่งในการยกคิ้วอยู่แล้วครับ การยกคิ้วนี้ไม่รวมถึงการยกคิ้วที่มีแผลอยู่ขอบบนหรือขอบล่างของคิ้วนะครับ
แนวทางแก้รอยย่นระหว่างคิ้วแนวทางที่ 2 คือ การเติมร่องลึกให้ตื้นครับ การหยุดการทำงานของกล้ามเนื้อเป็นเพียงแค่การหยุดรอยย่นไม่ให้เป็นมากขึ้นครับ แต่รอยย่นที่เป็นร่องลึกลงไปแล้วการแก้ที่กล้ามเนื้ออย่างเดียวไม่เพียงพอครับ ต้องมีการเติมร่องให้ตื้นขึ้นด้วย การเติมก็มีแบบชั่วคราวถาวรเหมือนกันครับ
แบบชั่วคราวก็คือ การใช้สาร hyaluronic acid หรือที่ชอบเรียกกันว่าฟิลเลอร์
ผมขอเรียกว่า hyaluronic acid หรือ HA ละกันนะครับเพราะมันเฉพาะเจาะจงกว่า ในตอนแรกสาร HA ผลิตมาโดยมีเป้าหมายเพื่อแก้ไขริ้วรอยเล็กๆ แต่ก็ได้มีการนำมาประยุกต์ใช้ในการเติมเต็มส่วนต่างๆ เช่น ขมับ ร่องแก้ม หรือเอามาเสริมคาง เสริมจมูก ทำให้ในปัจจุบันมีการพัฒนาโมเลกุลของ HA ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อให้เหมาะสมกับการเติมเต็มส่วนต่างๆที่ว่ามา และอยู่ได้นานขึ้น ข้อดีของการใช้ HA คือทำได้ง่ายและกะปริมาณได้แม่นยำ คือฉีดเข้าไปเท่าไรก็อยู่เท่านั้น แต่ก็มีข้อเสียคือไม่ถาวรครับ
ส่วนอีกวิธีในการเติมร่องลึกก็คือการใช้ไขมันตัวเอง เทคนิคการเติมไขมันในปัจจุบันแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท คือ macro fat, micro fat และ nano fat
การเติมร่องรอยย่นระหว่างคิ้วก็จะใช้เทคนิค micro fat การเติมไขมันมีข้อดีคือผลลัพธ์ที่ถาวร แต่ก็มีข้อเสียคือมีอัตราการสลายตัวค่อนข้างสูง ยกตัวอย่างให้เข้าใจง่าย ๆ ถ้าเติมไขมันไป 1 cc ไขมันจะอยู่เพียง 0.5-0.6 cc แต่ไขมันที่เหลืออยู่จะอยู่ถาวรไม่สลายไปแบบ HA ดังนั้นการเติมไขมันอาจจะต้องมีการเติมจำนวนหลายครั้งกว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ
โดยสรุปการแก้รอยย่นระหว่างคิ้วจะมี 2 แนวทาง คือ การหยุดการทำงานของกล้ามเนื้อและการเติมร่องลึกให้ตื้นครับ โดยมีทั้งวิธีการที่ได้ผลชั่วคราวและได้ผลถาวร ซึ่งมีข้อดี ข้อเสียต่างกัน อยู่ที่จะเลือกใช้อย่างไรให้เหมาะสมกับแต่ละคนครับ