ผมเชื่อว่าเมื่อคุณไปศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับการเสริมจมูกแบบ open จะได้เห็นหรือได้ยินเรื่องของการยืดผนังกั้นจมูก และมีความพยายามสร้างความเข้าใจแบบผิดๆ ว่าการเสริมจมูกแบบ open ที่ถูกต้องคือต้องมีการยืดผนังกั้นจมูกเท่านั้น มีคนไข้หลายๆคนที่ inbox เข้ามาหาผมแล้วอยากจะยืดผนังกั้นจมูก โดยที่ยังไม่เข้าใจเลยว่าการยืดผนังกั้นจมูกคืออะไร ผมไม่ได้บอกว่าวิธียืดผนังกั้นจมูกนี้ไม่ดีนะครับ เป็นวิธีที่ดีเลยล่ะครับ แต่ก็มีข้อเสีย ข้อจำกัดพอสมควรเลยครับ และในคลิปนี้ผมจะเล่าให้ฟังว่ามันมีข้อเสียอะไรบ้างครับ
สวัสดีครับ หมอโฮป นพ.อธิคม ถนัดพจนามาตย์ ศัลยแพทย์ตกแต่ง กับ Channel Doctor Hope Plastic Surgery กับความรู้และความจริงในเรื่องศัลยกรรมตกแต่งครับ และนี่คือข้อเสียบางอย่างของการยืดผนังกั้นจมูกที่ไม่เคยมีใครบอกครับ ที่ไม่บอกเพราะอาจจะไม่รู้ก็ได้นะครับ
การยืดผนังกั้นจมูกเป็นเทคนิคการเสริมหรือปรับโครงสร้างปลายจมูกที่ได้รับความนิยมอย่างมากในเกาหลีเมื่อ 10 ปีก่อน สามารถทำให้ปลายจมูกยาวและพุ่งขึ้นได้โดยไม่ต้องใช้ซิลิโคนจึงไม่เสี่ยงต่อการทะลุ เหมาะในคนที่ปลายจมูกสั้น เนื้อปลายจมูกหนา หรือในคนที่มีพังผืดแข็งหดรั้ง การยืดผนังกั้นจมูกแปลมาจากศัพท์ทางการแพทย์ที่เรียกว่า septal extension graft
ซึ่งก็คือการเอากระดูกอ่อนมาเย็บต่อกับกระดูกอ่อนผนังกั้นจมูกที่มีอยู่เพื่อให้ผนังกั้นจมูกนั้นยาวขึ้น แล้วผนังกั้นจมูกที่ยาวขึ้นมีประโยชน์อย่างไร เทคนิคนี้เป็นการใช้ผนังกั้นจมูกเป็นจุดรับน้ำหนักของกระดูกอ่อนปลายจมูกเมื่อผนังกั้นจมูกยาวขึ้นก็จะดันให้ปลายจมูกยาวขึ้นหรือโด่งพุ่งขึ้นได้ครับ แต่อย่างไรก็ตามเทคนิคยืดผนังกั้นจมูกก็ไม่ได้เป็นเทคนิคที่ดีที่สุดสำหรับทุกคน และนี่คือข้อเสียหรือข้อจำกัดของเทคนิคยืดผนังกั้นจมูกที่แม้กระทั่งศัลยแพทย์หลายคนก็ไม่เคยรู้ครับ
ข้อที่ 1 ทำให้ปลายจมูกแข็ง
โดยธรรมชาติผนังกั้นจมูกไม่ได้เชื่อมต่อกับกระดูกอ่อนปลายจมูกโดยตรง เวลาเราพูด ยิ้ม ขยับใบหน้า ปลายจมูกก็จะมีการเคลื่อนไหวได้ แต่เมื่อใช้เทคนิคยืดผนังกั้นจมูกแล้ว การเคลื่อนไหวตามธรรมชาติของปลายจมูกจะลดลง ทำให้ปลายจมูกดูแข็งและไม่เป็นธรรมชาติ
ข้อที่ 2 ทำให้ปีกจมูกรั้งขึ้นด้านบน
คนที่มีปีกจมูกรั้งขึ้นด้านบนอยู่แล้ว ถ้าใช้เทคนิคยืดผนังกั้นจมูก อาการปีกจมูกรั้งจะยิ่งแย่ลง
ข้อที่ 3 อาจทำให้ปลายจมูกงุ้มลงได้เมื่อเวลาผ่านไป
ปัญหานี้ไม่ได้เกิดกับทุกคน แต่จะเกิดในคนที่ผนังกั้นจมูกเดิมบางและอ่อนแอ เมื่อใช้เทคนิคยืดผนังกั้นจมูก ผนังกั้นจมูกที่อ่อนแอก็รับน้ำหนักไม่ไหว เกิดการทรุดตัวและปลายจมูกงุ้มลงได้ ครับ
ข้อที่ 4 อาจทำให้ปลายจมูกเอียง
เหมือนข้อที่แล้วครับ ไม่ได้เกิดกับทุกคน แต่จะพบได้ในคนที่ผนังกั้นจมูกเดิมบางและอ่อนแอ หรือว่าผนังกั้นจมูกเดิมไม่ตรง จุดนี้สำคัญนะครับ ถ้าเราเอาของที่ไม่ตรงไปเป็นจุดรับน้ำหนักปลายจมูกก็จะไม่ตรงตามไปด้วยครับ
ข้อที่ 5 ทำให้รูจมูกไม่เท่ากันได้
ซึ่งก็เช่นกันเป็นผลมาจากผนังกั้นจมูกเดิมบางและอ่อนแอ หรือผนังกั้นจมูกเดิมไม่ตรง ทำให้ปลายจมูกไม่ตรงตามมา เมื่อปลายจมูกไม่ตรง รูจมูกก็ไม่เท่ากันครับ
จะเห็นได้ว่าข้อที่ 3 ถึง 5 มีสาเหตุมาจากความอ่อนแอของผนังกั้นจมูก ซึ่งต้องบอกตรงๆเลยว่าคนไทยจำนวนมากมีผนังกั้นจมูกบางและอ่อนแอครับ อีกอย่างคนที่จมูกเดิมไม่ได้โด่ง ส่วนใหญ่ผนังกั้นจมูกก็มักจะเล็กและบางครับ จนในบางรายไม่สามารถนำผนังกั้นจมูกมายืดได้เลยครับ
อย่างนี้แปลว่าการเสริมจมูกแบบ open ก็ไม่ดีน่ะสิ ไม่ใช่นะครับสิ่งที่ผมพูดมาคือข้อเสียและข้อจำกัดบางอย่างของเทคนิคการยืดผนังกั้นจมูกครับ และการเสริมจมูกแบบ open ก็ไม่ได้หมายความว่าต้องยืดผนังกั้นจมูกทั้งหมด ถ้าไม่ได้ใช้เทคนิคยืดผนังกั้นจมูกคือไม่ใช่การเสริมจมูกแบบ open ไม่ใช่เลยนะครับ ตรงนี้ต้องฟังให้ดีนะครับ เทคนิคการยืดผนังกั้นจมูกเป็นเพียงแค่เทคนิคหนึ่งของการเสริมจมูกแบบ open เท่านั้น การเสริมจมูกแบบ open ที่ไม่มีซิลิโคนที่ปลายจมูกมีหลายเทคนิคครับ บางคนรู้อยู่แค่เทคนิคเดียวก็เลยเอาแต่พูดว่าการเสริมจมูกแบบ open คือยืดผนังกั้นจมูกเท่านั้น ขอย้ำนะครับว่าไม่ใช่ครับ ถ้าอยากรู้ว่าคุณเหมาะกับการทำเทคนิคไหน add line มาคุยกันได้ครับ
เรื่องสุดท้าย การยืดผนังกั้นจมูกหรือ septal extension graft จะเอากระดูกอ่อนส่วนไหนมาเย็บต่อกับผนังกั้นจมูกเดิมก็ได้ทั้งนั้นครับ จะเอากระดูกอ่อนผนั้งกั้นจมูกด้านในออกมาต่อก็ได้ จะเอากระดูกอ่อนใบหูมาต่อก็ได้ หรือจะเอากระดูกอ่อนซี่โครงมาต่อก็ได้หมดครับ การจะเลือกใช้ส่วนไหนมาปรึกษากันเป็นรายบุคคลดีกว่าครับ
ถ้าคิดอยากเสริมจมูกแบบ open เสริมจมูกแบบไร้ซิลิโคน ไร้สิ่งแปลกปลอม ส่งรูปมาให้ผมช่วยประเมินใน line official ที่ @dr.hope
รับชมคลิปเต็ม ยืดผนังกั้นจมูก ดูเหมือนจะดี แต่!!!