ปัญหาเนื้อปลายจมูกบาง

ปัญหาเนื้อปลายจมูกบาง

ปัญหาที่เกิดขึ้นหลังทำศัลยกรรมจมูกที่พบได้บ่อยปัญหาหนึ่งคือ ปัญหาเนื้อปลายจมูกบาง โดยเมื่อคลำแล้วจะพบว่าเนื้อบริเวณปลายจมูกบางลง อาจจะเห็นผิวหนังดูใสหรือแดง เห็นขอบซิลิโคนชัดเจนขึ้น ซึ่งถ้าปล่อยทิ้งไว้ซิลิโคนอาจมีโอกาสทะลุออกมาได้

สาเหตุเกิดจากวิธีการทำศัลยกรรมเพื่อเสริมจมูก โดยวิธีที่นิยมทำกันมากในประเทศไทยในปัจจุบันคือการใช้ซิลิโคนชิ้นเดียวเสริมตั้งแต่โคนจมูกยาวลงมาจนถึงปลายจมูก อาจจะเป็นซิลิโคนสำเร็จรูปรูปทรงต่างๆหรือนำซิลิโคนแท่งมาเหลาให้ได้รูปร่างตามที่ต้องการและจากความต้องการของผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่ต้องการรูปทรงจมูกที่มีลักษณะปลายจมูกพุ่ง เรียวเล็กหรือมีหยดน้ำ ทำให้มีการเลือกใช้หรือเหลาซิลิโคนที่มีรูปร่างหนาบริเวณปลาย ส่งผลให้เกิดแรงกดต่อเนื้อเยื่อปลายจมูก จนเนื้อปลายจมูกค่อยๆบางลง ถึงแม้จะมีความพยายามใช้วิธีการต่างๆเข้ามาช่วยลดปัญหานี้ เช่น การใช้กระดูกอ่อนหลังหู เนื้อเยื่อจากก้นกบหรือขมับมาคลุมส่วนปลายของซิลิโคน แต่สุดท้ายแล้วส่วนปลายของซิลิโคนก็ยังสร้างแรงกดต่อเนื้อเยื่อจมูกและเกิดปัญหาเนื้อปลายจมูกบางได้อยู่ อีกทั้งส่วนปลายซิลิโคนที่หนาเกินไปจะไปกดกระดูกอ่อนที่เป็นโครงสร้างภายในของปลายจมูกทำให้เกิดการผิดรูปและทำให้ปลายจมูกเอียงหรืองุ้มลงได้

วิธีการแก้ไขปัญหาปลายจมูกบางคือ การถอดซิลิโคนเดิมออกและทำการศัลยกรรมเสริมจมูกโดยการต่อผนังกั้นจมูกให้สูงขึ้นด้วยเนื้อเยื่อของผู้ป่วยเองเพื่อให้ได้ความสูงของปลายจมูกตามต้องการโดยที่ไม่ต้องมีการใช้ซิลิโคนเสริมที่บริเวณปลายจมูก โดยจะใช้ซิลิโคนเสริมบริเวณสันจมูกเท่านั้น ทำให้ไม่มีแรงกดของซิลิโคนที่ปลายจมูกเลย และในกรณีที่มีเกิดการกดทับของซิลิโคนจนเกิดการผิดรูปของโครงสร้างภายในก็จะต้องทำการแก้ไขให้กลับมาเป็นปกติซึ่งการแก้ไขโดยวิธีนี้จำเป็นต้องทำการผ่าตัดแบบเปิด(open rhinoplasty)

ส่วนการแก้ไขโดยการผ่าตัดแบบปิด(close rhinoplasty) โดยลดความยาวของซิลิโคนลงสามารถแก้ไขปัญหาปลายบางได้แต่จะไม่ได้รูปร่างจมูกตามที่ต้องการ อีกทั้งโครงสร้างภายที่ผิดรูปจะไม่ได้รับการแก้ไขอาจเกิดปัญหาปลายจมูกเอียงหรืองุ้มซ้ำได้