เมื่อมีปัญหา หนังตาหย่อน หนังตาตก หางตาตก ชั้นตาเล็กลง ก็น่าจะต้องแก้ไขด้วยการตัดหนังตาที่หย่อนออก ทำชั้นตาให้ใหญ่ขึ้น ชัดขึ้น หรือยกหางตาขึ้นใช่ไหมครับ แต่เมื่อไปปรึกษาศัลยแพทย์ตกแต่งบางท่านกลับแนะนำว่าควรยกคิ้ว แล้วอะไรคือวิธีที่ถูกต้องและเหมาะสม มาหาคำตอบกันในบทความนี้ครับ
สวัสดีครับ หมอโฮป นพ.อธิคม ถนัดพจนามาตย์ ศัลยแพทย์ตกแต่ง กับ Channel Doctor Hope Plastic Surgery กับความรู้และความจริงในเรื่องศัลยกรรมตกแต่งครับ
ปัญหาเรื่องความหย่อนคล้อยของหนังตาสร้างปัญหาให้คนจำนวนมาก ทั้งเรื่องความสวยงาม และอาจจะบดบังการมองเห็น เมื่อมีปัญหาที่หนังตา ผมพบว่าคนส่วนใหญ่จะให้ความสนใจไปที่การแก้หนังตา เช่น ไปทำตาสองชั้นใหม่ ตัดหนังที่หย่อนออก หรือพยายามทำให้หางตาหรือชั้นตาทางด้านข้างยกขึ้น แล้วก็มีจำนวนมากที่ทำมาแล้วกลับไม่พอใจกับผลลัพธ์ หรือในบางคนกลับดูแย่ลงกว่าก่อนทำ ทำไมถึงเป็นอย่างนั้นครับ
สาเหตุก็เพราะว่าความหย่อนคล้อยบนใบหน้า หรือ Facial aging ซึ่งก็คือการเปลี่ยนแปลงของใบหน้าตามอายุนั้นเกิดขึ้นทุกๆส่วน ลองสังเกตดูนะครับ คนที่หนังตาบนหย่อนก็มักจะมีปัญหาถุงใต้ตาหรือหนังตาล่างหย่อนด้วยครับ
ความหย่อนคล้อยของใบหน้าเกิดขึ้นกับทุกๆส่วน ซึ่งโครงสร้าง 5 ชั้นของใบหน้าผมเคยได้พูดถึงในคลิปเรื่อง เทคนิคการดึงหน้า ลองไปฟังกันดูได้ครับ
ผมอยากให้ฟังประโยคนี้ดี ๆ และลองคิดตามนะครับว่ามันสมเหตุสมผลไหม “เมื่อความหย่อนคล้อยเกิดขึ้นกับทุกๆส่วนของใบหน้า ถ้าหนังตาหย่อนส่วนอื่นของใบหน้าก็ต้องหย่อนไปด้วย” คุณว่าจริงไหมครับ และอยากให้เข้าใจว่า ส่วนที่มีผลต่อความหย่อนของหนังตาบน นอกจากตัวหนังตาบนเองแล้วก็คือส่วนที่อยู่เหนือหนังตาบนขึ้นไปทั้งหมด ซึ่งก็คือ คิ้ว และ หน้าผากนั่นเองครับ
จากบทความวิชาการและงานวิจัยต่าง ๆที่เกี่ยวกับการผ่าตัดยกคิ้ว ผู้เขียนหรือผู้วิจัยเห็นตรงกันหมดว่าผู้ที่เหมาะสมกับการผ่าตัดยกคิ้วหรือยกหน้าผากแทบทั้งหมด ไม่รู้ว่าตัวเองมีปัญหาคิ้วตกหรือหน้าผากหย่อนครับ ซึ่งจากประสบการณ์ของผมเองก็พบว่าเป็นแบบนี้เช่นกันครับ นั่นก็คือ คนไข้ที่เข้ามาปรึกษาส่วนใหญ่จะให้ความสำคัญไปที่ปัญหาของหนังตา ทั้งหนังตาหย่อน หนังตาตก หางตาตก แล้วก็อยากจะทำตา โดยที่ไม่ได้สนใจบริเวณคิ้วหรือหน้าผากเลย ถ้าทำผ่าตัดหนังตาตามที่คนไข้ต้องการโดยที่ไม่ประเมินให้ครบถ้วนก่อน ผลที่ตามมาก็คือ ออกมาไม่สวย หน้าดูดุเพราะชั้นตากับคิ้วใกล้จนแทบจะชิดกัน
พยายามกรีดแผลยาวเพื่อจะยกหางตาจนเป็นแผลกระดกโผล่พ้นรอยพับชั้นตาออกมา หรือบอกว่าเห็นรอยตีนกาชัดขึ้นเพราะตัดแต่หนังตา แต่หนังบริเวณหางตาหรือขมับยังหย่อนอยู่ สิ่งเหล่านี้เกิดจากการแก้ไขไม่ถูกจุดครับ ดังนั้นถ้ามีปัญหาความหย่อนคล้อยของหนังตาบน อย่าลืมดูด้วยนะครับว่าคิ้วเป็นอย่างไร
ระดับหรือตำแหน่งของคิ้วปกติ ที่ยังไม่ตกลงมา ในผู้หญิงจะอยู่เหนือขอบบนของกระดูกเบ้าตาและมีแนวโค้งขึ้น หางคิ้วจะสูงกว่าหัวคิ้ว โดยจุดสูงสุดของคิ้วจะอยู่ตรงกับแนวหางตา
ส่วนคิ้วผู้ชายระดับของคิ้วจะอยู่พอดีกับขอบบนของกระดูกเบ้าตาหรือสูงกว่าขอบบนของกระดูกเบ้าตาเล็กน้อย และรูปร่างจะไม่โค้งเท่าคิ้วผู้หญิงครับ ลองสังเกตตัวเองดูนะครับ ถ้าระดับต่ำกว่าที่ว่ามานี้ก็คือมีอาการคิ้วตกครับ ทีนี้รู้แล้วใช่ไหมครับว่าคุณมีคิ้วตกด้วยหรือเปล่า
แล้วการแก้ไขคิ้วตกทำอย่างไร เรื่องการแก้ไขใจเย็น ๆก่อนนะครับ เพราะต้องเข้าใจก่อนว่านอกจากวัยที่มากขึ้นและแรงโน้มถ่วงที่ทำให้คิ้วตกแล้ว
สิ่งที่มีผลอีกอย่างก็คือกล้ามเนื้อซึ่งเป็นเรื่องสำคัญในการแก้ไขคิ้วตกเลยครับ ถ้าสังเกตุคนที่คิ้วตกดีๆ จะเห็นว่าคิ้วด้านข้างหรือหางคิ้วจะตกมากกว่าด้านในหรือหัวคิ้วครับ สาเหตุก็เพราะว่ากล้ามเนื้อที่ควบคุมการยักคิ้วหรือยกคิ้วจะมีแค่ด้านใน จะไม่มีบริเวณหางคิ้วครับ
ทดสอบง่าย ๆ ลองส่องกระจกแล้วยักคิ้ว หรือเลิกหน้าผากดูครับ จะพบว่าเราไม่สามารถควบคุมให้หางคิ้วยกได้ ตำแหน่งที่ยกขึ้นไปจะเป็นหัวคิ้วถึงกลางคิ้ว โดยหางคิ้วจะเคลื่อนที่ตามไปเฉย ๆครับ นอกจากกล้ามเนื้อที่ยกคิ้วแล้วก็มีกล้ามเนื้อที่ดึงคิ้วลงด้วย โดยกล้ามเนื้อที่ดึงคิ้วลงมีหลายมัดและจะอยู่ตลอดแนวคิ้วคือตั้งแต่หัวคิ้วถึงหางคิ้วเลยครับ สรุปง่าย ๆ ก็คือ บริเวณหางคิ้วมีแต่กล้ามเนื้อที่ดึงคิ้วลง ไม่มีกล้ามเนื้อที่ยกคิ้วขึ้นเลย หางคิ้วจึงตกมากกว่าหัวคิ้วครับ ที่พูดเรื่องนี้เพราะจะได้เข้าใจเรื่องของการแก้ไขคิ้วตกโดยเฉพาะการฉีด botulinum toxin หรือ botox ครับ
การแก้คิ้วตกแบ่งเป็นแนวทางใหญ่ ๆ 2 วิธี คือ 1.การฉีด botulinum toxin และ 2.ก็คือการผ่าตัด
เรื่องการฉีด botulinum toxin botulinum toxin จะทำให้กล้ามเนื้อไม่ทำงาน ดังนั้นการยกคิ้วโดยวิธีนี้ทำโดยการทำให้กล้ามเนื้อที่ดึงคิ้วลงไม่ทำงานครับ เมื่อกล้ามเนื้อที่ดึงคิ้วลงไม่ทำงาน กล้ามเนื้อที่ยกคิ้วขึ้นก็จะมีแรงมากกว่า ทำให้คิ้วยกขึ้นครับ จะมีทั้งการฉีดเพื่อยกหางคิ้ว หรือยกทั้งคิ้วก็ได้ครับ ถึงแม้ว่าการฉีด botulinum toxin จะทำได้ง่ายกว่าการผ่าตัด แต่ผลที่ได้ก็จะไม่มากเท่าการผ่าตัด จึงเหมาะกับคิ้วที่คิ้วตกน้อย ๆเท่านั้นครับ
มาถึงเรื่องของการผ่าตัด ในปัจจุบันเทคนิคการผ่าตัดยกคิ้วที่ทำมากที่สุดคือการยกคิ้วหรือยกหน้าผากโดยการส่องกล้อง บ้างก็เรียกว่าส่องกล้องยกคิ้ว
ทำ endotine ยกคิ้ว ยกหน้าผากดึงคิ้วด้วยการผ่าตัดผ่านกล้อง ส่องกล้องปักหมุด จะเรียกอะไรก็ตามก็คืออย่างเดียวกันครับ ในศัพท์ทางการแพทย์จะเรียกว่า endoscopic brow lift หรือ endoscopic forehead lift ครับ ซึ่งหมายถึงการผ่าตัดอย่างเดียวกันครับ
ถามว่าการยกคิ้วโดยการส่องกล้องทำมากแค่ไหน ข้อมูลจากงานวิจัยหลาย ๆ งาน ให้ข้อมูลเหมือน ๆกัน คือ ประมาณครึ่งหนึ่งของการยกคิ้วทั้งหมดทำโดยการส่องกล้องครับ อาจจะเคยได้ยินถึงข้อดีของวิธีการนี้กันมาบ้าง เช่น ไม่ต้องเปิดแผลใหญ่ แผลเป็นมองไม่เห็น ฟื้นตัวเร็ว เป็นวิธีที่ทันสมัยที่สุด ซึ่งผมก็เห็นด้วยครับ ตัวผมเองแนะนำให้คนไข้ทำโดยวิธีนี้เกินครึ่งด้วยซ้ำ แต่สงสัยไหมครับว่าทำไมอีกครึ่งหนึ่งถึงไม่ทำด้วยการส่องกล้อง แล้วอยากรู้ไหมครับว่าการยกคิ้วมีวิธีอะไรบ้าง แต่ละวิธีมีข้อดี ข้อเสียอย่างไร มาอ่านกันต่อครับ
วิธีการยกคิ้วที่ผมจะพูดถึงมีอยู่ 7 วิธี ซึ่งมีข้อดีและข้อเสียต่างกันครับ ในแต่ละวิธีจะแตกต่างกันที่แนวการลงแผล แต่ทุกวิธีต้องมีการผ่าตัดกล้ามเนื้อทั้งการเย็บกล้ามเนื้อไปแขวนในตำแหน่งที่สูงขึ้น หรือตัดกล้ามเนื้อเพื่อลดการทำงานหลักการเดียวกับการฉีด botulinum toxin ด้วยครับ
เป็นการตัดผิวหนังบริเวณเหนือคิ้วออกและเย็บคิ้วให้ยกขึ้นไปด้านบน วิธีการนี้ทำได้ง่าย สามารถฉีดยาชาทำได้ สามารถแก้ไขคิ้วที่ไม่เท่ากันในคนที่ระดับคิ้วต่างกันมากๆ ได้ โดยเฉพาะคนไข้ที่เป็นอัมพาตของเส้นประสาทใบหน้า แต่จะมีข้อเสียคือเรื่องแผลเป็นที่เห็นได้ชัด ซึ่งใช้เวลาค่อนข้างนานกว่าแผลจะจางลง และถ้าต้องการยกคิ้วขึ้นมากๆแนวแผลเป็นก็อาจจะเลยคิ้วออกมาได้ครับ
เป็นการตัดหนังตามแนวรอยย่นกลางหน้าผากออก ซึ่งวิธีนี้เหมาะกับคนที่มีรอยย่นเป็นร่องลึกมากๆกลางหน้าผาก แต่จากประสบการณ์ของผม วิธีการนี้ไม่เหมาะที่จะทำในคนไทยเพราะจะเกิดแผลเป็นที่เห็นได้ชัดกลางหน้าผาก และคนไทยมักไม่มีรอยย่นที่เป็นร่องลึกมาก ๆ อีกทั้งการยกวิธีนี้สร้างแนวคิ้วให้โค้งได้ยาก จึงไม่เหมาะกับผู้หญิงด้วยครับ
เป็นการลงแผลยาวตามแนวไรผมด้านหน้า และเลาะลงมาจนถึงคิ้ว เหมาะกับคนที่จะต้องทำการผ่าตัดอย่างอื่นบริเวณกระดูกหน้าผากด้วย เช่น ลดหน้าผาก กรอโหนกคิ้ว เป็นต้น และเหมาะกับคนที่แนวไรผมสูง หน้าผากกว้าง เพราะสามารถลดความกว้างหน้าผากและดึงแนวไรผมลงมาได้
วิธีการนี้เหมาะกับคนที่คิ้วตกแค่บริเวณปลายคิ้วและมีผิวหนังบริเวณขมับหย่อนด้วย การลงแผล มี 2 แบบ
4.1 ลงแผลบริเวณไรผมด้านหน้าตรงขมับ คือเป็นแนวต่อจาก pretrichial brow lift ออกมา
กับอีกวิธีคือ 4.2 ลงแผลหลังแนวไรผม การลงบริเวณไรผมด้านหน้าจะดึงได้ดีกว่าและสามารถลดความกว้างของขมับลงได้ ส่วนแผลหลังแนวไรผมจะซ่อนแผลได้ดีกว่า
วิธีนี้จะเหมือนกับ pretrichial brow lift แต่แผลจะอยู่หลังแนวไรผม ปัจจุบันทำวิธีนี้ค่อนข้างน้อยเพราะแผลยาวและเสียเลือดมาก มักนิยมทำด้วยวิธีการส่องกล้องมากกว่าเพราะได้ผลลัพธ์ใกล้เคียงกันโดยที่ใช้เวลาผ่าตัดสั้นกว่า แผลเล็กกว่า เสียเลือดน้อยกว่า แต่ก็ยังมีการใช้บ้างในบางกรณี เช่น ต้องมีการผ่าตัดกระดูกหน้าผากร่วมด้วย เช่น ลดหน้าผาด กรอโหนกคิ้ว เหมือนวิธี pretrichial brow lift แต่วิธีนี้แนวไรผมจะสูงขึ้น ทำให้หน้าผากกว้างขึ้น
วิธีนี้ผมจะรวมเอาวิธีที่คล้าย ๆกัน ไว้ในวิธีนี้ ทั้ง การใช้ endotine ผ่านทางแผลทำตา การลงแผลใต้คิ้ว โดยหลักการก็คือการเข้าไปยึดตำแหน่งคิ้วใหม่จากทางด้านล่าง ไม่ใช่จากทางด้านบนเหมือนวิธีอื่น ๆ ข้อจำกัดของวิธีนี้คือ ยกคิ้วได้ค่อนข้างน้อย
มีคนจำนวนมากเรียกวิธีนี้ว่า endotine ซึ่งไม่ถูกต้องซะทีเดียว มันเหมือนที่เราเรียกผงซักฟอกว่าแฟ้บนั่นแหละครับ
การส่องกล้องยกคิ้วจะทำโดยการเปิดแผลสั้น ๆ หลาย ๆ จุด แล้วใส่เครื่องมือเข้าไปเลาะยกหนังบริเวณหน้าผากขึ้นจากกะโหลกศีรษะ ซึ่งพื้นที่ในการเลาะจะเหมือนกับวิธี coronal brow lift โดยจะมีการใช้กล้องส่องเข้าไปเพื่อช่วยในการเลาะ การตัดกล้ามเนื้อ และป้องกันการบาดเจ็บของเส้นประสาท เมื่อเลาะเรียบร้อยแล้วก็จะต้องยกหน้าผากและคิ้วขึ้นไป การยกขึ้นไปจะต้องมีการยึดหนังหน้าผากกับโครงสร้างที่แข็งแรง นั่นก็คือกะโหลกศีรษะ แต่เราไม่สามารถใช้เข็มเย็บกะโหลกศีรษะที่เป็นกระดูกได้ แล้วจะยึดอย่างไร ก็ต้องมีตัวช่วยครับ วิธีการยึดมีหลายวิธี เช่น การใช้สว่านเจาะรูบนกะโหลกแล้วร้อยไหมเย็บเข้าไปในรูที่เจาะ อีกด้านของไหมก็มาเย็บยึดกับหนังหน้าผาก หรือใช้สกรูที่มีรูตรงหัวสกรูไขยึดไว้กับกะโหลก เอาไหมร้อยเข้าไปเย็บยึดเหมือนวิธีแรก และ วิธีสุดท้ายคือใช้วัสดุที่ชื่อ endotine เป็นตัวยึด
โดยจะเจาะกะโหลกศีรษะแล้วฝัง endotine ลงไป ตัว endotine จะมีหนามไว้เกี่ยวเพื่อยึดหนังหน้าผากครับ ตอนนี้เข้าใจแล้วใช่ไหมครับว่าการยกคิ้วด้วย endotine คืออะไร endotine เป็นชื่อวัสดุที่ใช้ยึดเท่านั้น โดยการส่องกล้องยกคิ้วมีวิธีการยึดได้อีกหลายวิธีครับ
และนี่ก็คือ 7 วิธี ในการยกคิ้วครับ แต่ปัจจุบันก็ยังมีการพัฒนาวิธีใหม่ ๆ อยู่เสมอ ซึ่งผมไม่ได้พูดถึงในตอนนี้ เช่น วิธี gliding brow lift ซึ่งเริ่มมีการพูดถึงมาประมาณ 2-3 ปี ที่ผ่านมา ที่ผมไม่พูดถึงในบทความนี้เนื่องจากประสบการณ์ของผมสำหรับวิธีนี้ยังน้อยอยู่ครับ
ตอนนี้หวังว่าทุกคนคงจะได้คำตอบแล้วนะครับ ว่า หนังตาหย่อน หางตาตก ทำไมต้องยกคิ้ว และอย่าลืมครับว่า “เมื่อความหย่อนคล้อยเกิดขึ้นกับทุกๆส่วนของใบหน้า ถ้าหนังตาหย่อนส่วนอื่นของใบหน้าก็ต้องหย่อนไปด้วย” ครับ
ถ้ามีปัญหาเรื่องของการทำศัลยกรรมทุก ๆเรื่อง สนใจอยากทำศัลยกรรม อยากได้คำปรึกษา ส่งรูปมาให้ผมช่วยประเมินใน line official ที่ @dr.hope ได้นะครับ