สวัสดีครับ หมอโฮป นพ.อธิคม ถนัดพจนามาตย์ ศัลยแพทย์ตกแต่ง กับ Channel Doctor Hope Plastic Surgery กับความรู้และความจริงในเรื่องศัลยกรรมตกแต่งครับ
ปัญหาเกี่ยวกับกระดูกเบ้าตาเป็นสิ่งที่หลายๆ คนมองข้ามไป มีคนไข้หลายคนที่มาพบผมด้วยปัญหาว่า รู้สึกว่าหน้าดุ ตาดุ แล้วอยากทำตาสองชั้นเพื่อแก้ไข บางคนมีปัญหาตาโหล เบ้าตาลึกและก็ให้ความสำคัญไปที่การเติมไขมันที่เบ้าตา ย้ายไขมัน ทำตาสองชั้น แก้กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง หรือยกคิ้ว เพื่อแก้ไข วิธีการแก้ไขที่กล่าวมาไม่ใช่สิ่งที่ผิดในการแก้ปัญหาดังกล่าวนะครับ แต่ว่ายังไม่ครอบคลุมทั้งหมด ยังมีอีกส่วนที่ต้องคำนึงถึงและต้องประเมินด้วยทุกครั้ง ก็คือกระดูกขอบเบ้าตาบนหรือโหนกคิ้วครับ
ลองสังเกต 2 รูปนี้ดูนะครับ จุดสำคัญจุดหนึ่งที่ทำให้ใบหน้าของผู้ชายและผู้หญิงแตกต่างกันก็คือ บริเวณโหนกคิ้วครับ จะสังเกตได้ว่าผู้ชายจะมีกระดูกโหนกคิ้วที่โหนกหรือยื่นมาด้านหน้ามากกว่าผู้หญิง จุดนี้เป็นจุดสำคัญมากในผู้ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงใบหน้าจากผู้ชายให้กลายเป็นผู้หญิงครับ รวมถึงผู้หญิงหลายๆคนที่มีปัญหาหน้าดุ ตาดุ เบ้าตาลึก ตาโหล อาจจะมีปัญหากระดูกโหนกคิ้วร่วมกับปัญหาอื่นๆด้วยก็ได้ ถ้าประเมินไม่ครบถ้วนแก้อย่างไรก็ไม่ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการครับ
ในคนไข้ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มสาวประเภท 1 สาวประเภท 2 หรือผู้ชายก็ตาม การแก้ไขปัญหาเรื่องกระดูกโหนกคิ้วผมจะแบ่งออกเป็น 2 วิธีใหญ่ๆ คือ เพิ่ม และ ลด ครับ
การเพิ่ม ก็คือการเสริมครับ โหนกคิ้วสูงแล้วทำไมต้องเสริมอีก จุดที่เสริมไม่ได้เสริมที่โหนกคิ้วครับ การที่เห็นว่าโหนกคิ้วสูงมันก็คือการเปรียบเทียบครับ จุดที่เปรียบเทียบก็คือสันจมูกและหน้าผากครับ คนที่โหนกคิ้วดูสูงอาจเกิดจากสันจมูกต่ำหรือหน้าผากต่ำก็ได้ครับ การเสริมในที่นี้ก็คือการเสริมจมูกและการเสริมหน้าผาก ซึ่งจะเหมาะกับคนที่มีสันจมูกต่ำ รูปหน้าผากไม่สวย หน้าผากลาด หน้าผากต่ำ ซึ่งการเสริม 2 ส่วนนี้จะทำให้ความเด่นของโหนกคิ้วลดลงโดยไม่ต้องไปลดหรือกรอโหนกคิ้วครับ
ส่วนการลด ก็คือลดโหนกคิ้วลงครับ โดยการลดจะแบ่งเป็น 2 บริเวณ และ 2 วิธี ครับ 2 บริเวณคือ หัวคิ้ว และ หางคิ้ว ส่วน 2 วิธีคือ กรอ และ ยุบ ครับ
เรื่องของบริเวณมาดูรูปกะโหลกนี้กันครับ บริเวณแรกคือหัวคิ้วซึ่งจะอยู่ตรงกลางตามที่วงในรูปครับ
เมื่อมองภาพด้านข้างจะเห็นว่า บริเวณนี้มีกระดูกหน้า หลัง และตรงกลางมีลักษณะเป็นโพรง ซึ่งก็คือโพรงไซนัส ที่มีชื่อว่า Frontal sinus ครับ
ถ้าดูจากรูปนี้ก็จะเห็นโพรงไซนัสหน้าตาแบบนี้ครับ
การลดบริเวณนี้มีทางเลือก 2 วิธี ก็คือ กรอ กับ ยุบ ครับ แล้วจะเลือกอย่างไร สิ่งที่ต้องรู้ก่อนคือจะยุบแค่ไหน ยุบกี่มิลลิเมตร และกระดูกชิ้นหน้าหนาเท่าไรครับ หลักการก็คือ กรอได้ไม่เกินความหนาของกระดูกครับ เช่น ถ้ากระดูกหนา 5 มิลลิเมตร และต้องการลดลง 3 มิลลิเมตร แบบนี้ก็สามารถกรอได้ครับ แต่ถ้ากระดูกหนา 3 มิลลิเมตร แต่ต้องการลด 5 มิลลิเมตร ก็ไม่สามารถกรอได้เพราะกระดูกหนาไม่พอ ก็ต้องใช้วิธีการยุบ โดยตัดกระดูกชิ้นหน้าแยกออกมาแล้วดันลงไปด้านหลังตามระยะที่ต้องการ จากนั้นยึดกระดูกชิ้นนั้นกับกระดูกรอบๆด้วย plate และ screw ครับ
การจะรู้ได้ว่ากระดูกหนาเท่าไร จะยุบเท่าไร ในปัจจุบันสามารถทำได้โดยการทำ CT scan โดยจะได้ภาพ 3 มิติออกมาแบบนี้ครับ และเราก็สามารถวัดระยะต่างๆได้ครับ
อีกบริเวณก็คือบริเวณ หางคิ้ว บริเวณนี้ไม่มีโพรงไซนัสอยู่ด้านหลังครับ การลดบริเวณนี้ก็ใช้การกรอเพียงอย่างเดียวครับ
ในการผ่าตัดบริเวณนี้สิ่งที่ต้องระวังก็คือเส้นประสาทรับความรู้สึกของหน้าผากโดยมีตำแหน่งอยู่ใกล้หัวคิ้ว ถ้าไม่ระวังแล้วเกิดการบาดเจ็บก็จะเกิดอาการชาหน้าผากตามมาครับ
และทั้งหมดนี้ก็คือหลักการในการปรับรูปกระดูกโหนกคิ้ว ซึ่งมีผลอย่างมากต่อรูปหน้า ลักษณะเบ้าตาและชั้นตาครับ ซึ่งกระดูกโหนกคิ้วเป็นจุดสำคัญที่ต้องประเมินทุกครั้งในคนไข้ที่จะมาทำผ่าตัดทุก ๆ อย่างบนใบหน้าครับ
ถ้ามีปัญหาเรื่องของการทำศัลยกรรมทุก ๆเรื่อง สนใจอยากทำศัลยกรรม อยากได้คำปรึกษา ส่งรูปมาให้ผมช่วยประเมินใน line official ที่ @dr.hope ได้นะครับ