การเสริมจมูกไม่ใช่แค่การใช้ซิลิโคน วัสดุเสริมจมูกที่หลายคนไม่เคยรู้ จะเลือกอย่างไรเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ออกมาสวย ดูดี และปลอดภัย แชร์หรือเซฟเก็บไว้ตัดสินใจดูนะครับ เพราะผลลัพธ์ที่ดีเกิดจากความใส่ใจ
ซิลิโคน : วัสดุพื้นฐานที่คนอยากทำจมูกต้องรู้จัก
ข้อดีของซิลิโคน คือความคงรูป ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ยังคงรูปเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
ข้อเสียของการใช้ซิลิโคนมักเกิดที่ปลายจมูกเพราะจะเกิดการเสียดสีและแรงกดกับเนื้อปลายจมูก สามารถทำให้เนื้อปลายจมูกทะลุได้ ยิ่งเนื้อน้อยยิ่งต้องระวัง ซิลิโคนจึงเหมาะกับใช้เสริมบริเวณสันจมูกเท่านั้นครับ
กอร์เท็กซ์ : หรือ ePTFE เป็นวัสดุทางการแพทย์ที่นิยมใช้ทำหลอดเลือดเทียม
สามารถยึดติดกับเนื้อเยื่อโดยรอบของร่างกายได้ดี จึงเชื่อว่าการใช้กอร์เท็กซ์ในการเสริมจมูกแทนซิลิโคนจะยึดติดเป็นเนื้อเดียวกับจมูก ป้องกันการเบี้ยวเอียงได้ ฟังดูน่าสนใจนะครับ แต่เจ้าตัวกอร์เท็กซ์เนี่ยนานๆ ไปจะยุบตัวลง ทำให้สันจมูกไม่โด่งแบบตอนทำแรกๆ และถ้าเกิดเหตุสุดวิสัยต้องผ่าตัดแก้ไข จะเอาออกค่อนข้างยาก และถ้าเกิดการติดเชื้อมักจะมีอาการรุนแรงกว่าการใช้ซิลิโคนครับ
เนื้อเยื่อเทียม : มีคุณสมบัติเหมือนหนังแท้ของตัวเอง
แต่ได้มาจากผิวหนังของผู้บริจาค แล้วไปผ่านกระบวนการเพื่อเอาเซลล์เก่าออกให้หมด มักนำมาใช้แก้ไขหรือเสริมบริเวณที่มีปัญหาเนื้อบางทั้งสันจมูกและปลายจมูก หรือเอามาคลุมซิลิโคนบริเวณปลายจมูกเพื่อป้องกันการทะลุ แต่ถ้าเสริมซิลิโคนที่ปลายจมูกมากเกินไปก็ทะลุได้อยู่ดีครับ
PCL Mesh : ลักษณะเป็นแผ่นตาข่าย ที่เกิดจากเทคโนโลยี 3D Printing
เมื่อใส่เข้าไปในร่างกายจะกระตุ้นให้เกิดการสร้างเซลล์กระดูกอ่อนเข้ามาแทนที่ จากนั้น PCL mesh จะสลายไปเอง จึงนำมาใช้ทดแทนการใช้กระดูกอ่อนจากร่างกายของเราเอง แต่วัสดุนี้เพิ่งนำมาใช้ในวงการศัลยกรรมได้เพียงไม่กี่ปี จากงานวิจัยเกี่ยวกับผลลัพธ์ของการใช้ PCL mesh ที่นานที่สุดคือระยะเวลา 3 ปี ทำให้ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าในระยะยาวจะเกิดผลแบบไหนกับร่างกายครับ
กระดูกอ่อนจากใบหู : มีคุณสมบัติเหมือนกับกระดูกอ่อนที่ปลายจมูก
ในการเสริมจมูกแบบ structural rhinoplasty หรือที่เรียกกันทั่วๆ ไปว่า open rhinoplasty จะใช้กระดูกอ่อนจากใบหูในการเสริมและปรับโครงสร้างของปลายจมูก ทำให้ปลายจมูกสูงขึ้นหรือยาวขึ้นแล้วแต่ความต้องการแทนการใช้ซิลิโคนเสริมปลายจมูกแบบในอดีต ทำให้ไม่มีซิลิโคนที่ปลายจมูกเลย ซึ่งจะไม่มีปัญหาปลายจมูกทะลุตามมา ส่วนการเอากระดูกอ่อนจากใบหูมาเย็บคลุมปลายซิลิโคนเพื่อกันทะลุไม่ใช่การเสริมแบบ structural rhinoplasty ถ้าเสริมซิลิโคนที่ปลายจมูกมากเกินไปก็ทะลุได้อยู่ดีครับ
กระดูกอ่อนจากผนังกั้นจมูก : นิยมนำมาใช้ ในการเสริมจมูกแบบ structural rhinoplasty
มักใช้ในกรณีที่ปลายจมูกสั้นมากๆ โดยการทำด้วยเทคนิคการยืดผนังกั้นจมูกเพื่อช่วยให้ปลายจมูกยาวขึ้น แต่ก็มีข้อเสียคือปลายจมูกจะค่อนข้างแข็งและขยับได้น้อยลง
กระดูกอ่อนซี่โครง : บริเวณซี่โครงจะมีกระดูกอ่อนปริมาณมาก
มีความแข็งแรงกว่ากระดูกอ่อนจากใบหูและผนังกั้นจมูก สามารถนำมาใช้เสริมได้ทั้งสันจมูกและปลายจมูก
มักเลือกใช้ในกรณีที่คนไข้ต้องการใช้เนื่อเยื่อของตัวเองล้วนๆ ในการเสริมจมูก หรือในเคสแก้ที่เคยใช้กระดูกอ่อนจากใบหูและผนังกั้นจมูกไปแล้วหรือมีการผิดรูปของจมูกที่รุนแรง ข้อเสียก็คือจะต้องมีแผลผ่าตัดบริเวณหน้าอกเพิ่มและปลายจมูกจะค่อนข้างแข็งมากกว่าการใช้กระดูกอ่อนจากผนังกั้นจมูก
การทำจมูกแบบ structural rhinoplasty หรือ open rhinoplasty เป็นการเลือกเอาข้อดีของวัสดุแต่ละอย่างมาใช้ร่วมกัน โดยผมเลือกใช้ซิลิโคนแบบนิ่มเสริมแค่บริเวณสันจมูกเท่านั้น ส่วนปลายจมูกจะใช้กระดูกอ่อนจากส่วนต่างๆ มาตกแต่งและปรับโครงสร้างโดยที่ส่วนนี้จะไม่มีซิลิโคนเลย จึงมั่นใจได้ว่าไม่มีทางทะลุแน่นอนครับ ซึ่งเทคนิคพิเศษนี้จะซับซ้อนกว่าการเสริมจมูกด้วยซิลิโคนทั่วๆ ไป ใช้เวลาผ่าตัดนานกว่าและราคาสูงกว่า แต่ผลลัพธ์ที่ได้คุ้มค่ามากๆ ครับ